เปิดตัวกันไปแล้วสำหรับ Vivo TWS Neo หูฟัง True Wireless รุ่นแรกของทางค่าย Vivo แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำระดับโลก ที่เป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งหูฟังไร้สาย Vivo TWS Neo
ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของเหล่าผู้บริโภคที่มีความต้องการสิ่งใหม่ๆ และได้ประสบการณ์การใช้งานที่คุ้มค่า และถ้าหากคุณกำลังมองหาหูฟังไร้สายที่มีคุณภาพ สไตล์การออกแบบระดับพรีเมี่ยม คุ้มค่า คุ้มราคาแล้วล่ะก็ Vivo TWS Neo ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว
Vivo TWS Neoมีมาตรฐานเสียงระดับ HiFi ที่มีจุดเด่นคือ ไดร์ฟเวอร์ไดนามิคที่ทำจากทองแดงบริสุทธิ์ขนาด 14.2 มม. ทำให้สามารถขับเสียงออกมากได้ดีในทุกมิติมากยิ่งขึ้น และเทคโนโลยี Qualcomm aptX Adaptive ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยส่งคลื่นเสียงได้ดีกว่าหูฟังไร้สายทั่วไปถึง 1.5 เท่า ราวกับกำลังฟังเพลงจากซีดี
![Vivo TWS Neo](https://ambbetsport.com/wp-content/uploads/2020/07/2.png)
รวมทั้งมีค่า latency ที่ต่ำมากๆ เพียง 88 ms. พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนด้วยซอฟต์แวร์ AI จึงลดเสียงแทรกจากสภาพแวดล้อมภายนอก เพื่อให้เสียงคมชัด นอกจากนี้มีมาตรฐานป้องกันน้ำป้องกันฝุ่นระดับ IP54 นั่นหมายความว่าคุณสามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย, กลางแจ้ง หรือสถานที่ต่างๆ หูฟังไร้สายตัวนี้ยังรองรับระบบเชื่อมต่อบลูทูธเวอร์ชั่น 5.2 เชื่อมต่อได้รวดเร็ว แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคลื่นสัญญาณอยู่มาก ทั้งยังประหยัดพลังงาน
สำหรับหูฟังไร้สาย Vivo TWS Neoมีการออกแบบสุดพรีเมี่ยม ซึ่งทางวีโวเองได้ฉีกกฎการออกแบบแบบทั่วไป ซึ่งทำให้เจ้าหูฟังไร้สายตัวนี้แตกต่างจากหูฟังไร้สายทั่วไป มีการออกแบบให้ใช้งานคล่องตัว น้ำหนักเบา สวมใส่แล้วรู้สึกสบาย
ด้วยน้ำหนักของตัวหูฟังที่หนักแค่เพียง 4.7 กรัมเท่านั้น ส่วนตัวก้านหูฟังมีขนาดยาวกว่าหูฟังทั่วไป เพื่อการรับสัญญาณเสียงให้ดียิ่งขึ้น จับกระชับถนัดมือ และป้องกันการร่วงหล่นอีกด้วย ทั้งยังมาพร้อมรูไมโครโฟนขนาดใหญ่ ช่วยรับเสียง และลดเสียงรบกวนได้ดี
หูฟังไร้สาย Vivo TWS Neoมีเทคโนโลยี DEEP X ด้วยการใช้หลักการสร้างเสียงแบบระบบ Deep Field ให้ความคมชัดทุกย่านเสียง โดยการเพิ่มความถี่เสียง ตั้งแต่คลื่นความถี่ 1,000-30,00Hz
พร้อมให้คุณสัมผัสกับเสียงที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.2 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เป็นการเชื่อมต่อแบบ Dual Channel 2.0 ที่ทำให้การเชื่อมต่อได้ไกลมากถึงระยะ 10 เมตร โดยสัญญาณจะไม่ขาด หรือสะดุด
![Vivo TWS Neo](https://ambbetsport.com/wp-content/uploads/2020/07/3.png)
วิธีการใช้งาน ก็ไม่ยุ่งยาก ครั้งที่จะเชื่อมต่ออุปกรณ์ใดให้กดปุ่มตรงกลางที่อยู่ตรงกลางของเคส นาน 2 วินาที เพื่อเริ่มต้นปล่อยสัญญาณบลูทูธ (สังเกตได้จากแสงไฟ LED สีขาว) จากนั้นก็นำอีกอุปกรณ์เชื่อมต่อได้เลย
ทั้งนี้หากเลิกใช้งานก็แค่นำหูฟังเก็บใส่เคส ระหว่างนั้นจะทำการชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟังด้วยเหมือนกัน จึงมั่นใจได้ว่าหูฟังของคุณแบตเตอรี่จะมีแบตฯ ที่เต็มเสมอ การใช้งานอีกครั้ง ไม่ต้องต่อสัญญาณบลูทูธใหม่ เพราะหูฟังและอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกันอัตโนมัติเลย เพิ่มความสะดวกคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
วิธีการควบคุม มีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ด้วยการใช้การสไลด์ที่ก้านหูฟังในการควบคุมเสียง ให้เลื่อนขึ้นหากต้องการเพิ่มเสียง ถ้าเสียงอยู่ในระดับสูงสุดแล้วจะมีเสียงแจ้งเตือน
ถ้าต้องการลดเสียงให้ เลื่อนก้านหูฟังลง การเล่นเพลงหยุดเพลง ให้กดแตะหนึ่งครั้ง เช่นเดียวกับการตัดสาย/รับสาย ถ้าต้องการเล่นเพลงถัดไปให้กดสองครั้ง รวมถึงการยกเลิกการสนทนา
ส่วนของเคสทาง Vivo ก็ให้ผู้ใช้งานสามารถหยิบหูฟังได้สะดวก ด้วยแนวคิดที่ว่า แค่เปิด แล้วหยิบ ไม่ต้องแบบจับเหมือนหูฟังทั่วไป นอกจากนี้การชาร์จแบตเตอรี่ก็เสียบสาย USB Type-C 2.0 ชาร์จได้เลย
จึงไม่ต้องไปหาสายชาร์จให้วุ่นวาย หูฟัง Vivo TWS Neoนั้นรองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบ Android และ iOS หรือจะเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) หรือ Smartband ก็ทำได้คล่องตัว
Vivo TWS Earphone Neoมาพร้อมดีไซน์แบบ Open-fit ที่ดูทันสมัยและกะทัดรัด ที่มีปลอกเสียบรูหูและใบหูที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับสรีระ ขนาดพอดีกับใบหูของคุณ น้ำหนักเบา ทำให้รู้สึกสวมใส่สบายแม้จะใส่นานแค่ไหน พร้อมทั้งกล่องเคสดีไซน์สวยหรู พร้อมสีคลาสสิคและทันสมัย สีน้ำเงินและเซรามิกสีขาว
พร้อมการสแตนด์บายได้นานกว่า 22.5 ชั่วโมง ให้คุณใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ เพลิดเพลินไปกับการรับฟังที่ไร้การสะดุดใช้งานรวมชาร์จผ่านเคส ได้นานถึง 22.5 ชั่วโมง เมื่อคุณใส่หูฟังเพียงข้างเดียวสามารถใช้งานได้นานถึง 4.5 ชั่วโมง เปรียบเสมือนชมภาพยนตร์นานถึง 2 เรื่อง
มาพร้อมกับฟีเจอร์ Find My TWS Neo ฟีเจอร์ของ TWS Earphone Neo ที่จะช่วยค้นหา earbuds อีกข้างที่หายไป โดยจะค้นหาจากการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ พร้อมทั้งยังสามารถบอกพิกัดแสดงตำแหน่งที่ทำหล่นหาย เพื่อให้คุณค้นหาได้อย่างง่ายดาย และไม่ต้องกังวลว่าคุณลืมไว้ที่ไหน
สามารถติดตามบทความที่น่าสนใจได้ ที่นี่